LE JaoJom Café Bistro​ & Bar เป็นคาเฟ่ที่เวอร์วังอลังการมากครับ และเป็นอะไรที่คุ้มสุด ๆ กับแต่ละเมนูที่ทำออกมา และบรรยากาศสุดฟินกับวิวริมทะเลสวย ๆ

รีวิวนี้ยังอยู่กันที่เกาะช้างนะครับ แนะนำจุดเช็คอินอีก 1 จุดที่ควรมา

จากที่ดูหลาย ๆ รีวิวที่ออกมาบอกว่าราคาแพงเว่อ แต่สำหรับผมแล้วนี่มันราคาสุดคุ้มเลยนะครับ ยิ่งถ้าเทียบกับคาเฟ่ที่พัทยาแล้วราคามันถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่งเลยนะครับ แถมเมนูที่ทำออกมายังตกแต่งได้สวยงามเหมาะแก่การแช็คอินลงเฟสจริง ๆ ครับ

เวลาเปิดปิดก็ดูตามรูปนี้เลยนะครับ

เปิด 11.00-19.00 ถ้ามาตรงกับวันหยุดก็ให้โทรมาจองที่ไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาจะไม่มีที่ให้นั่งเอา

ร้านคาเฟ่เลอเจ้าจอมคาเฟ่จะอยู่ติดกับถนนเส้นหลักฝั่งตะวันตกของเกาะช้างนะครับ

ขับรถเข้ามาประมาณ 20 เมตรก็จะมีที่จอดรถอยู่ตรงซ้ายมือ

ที่มาวันนี้ตรงกับวันที่ฝนตกทั้งวันนะครับ และคลื่นทะเลก็แรงมาก

ตรงทางเข้าร้านที่เดินจากจุดจอดรถจะเป็นซุ้มไม้ไผ่สวย ๆ ไว้ให้ถ่ายรูป และมีเมนูอยู่ด้านหน้าให้เลือกก่อนเข้าร้านก็ได้ครับ

เดินเข้ามาแล้วให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางเดิน

เดินไปจุดสุดทางเข้าร้านจะอยู่ด้านขวามือนะครับ ส่วนซ้ายมือนั้นจะเป็นห้องน้ำ

ก่อนจะเข้าร้านก็ลองอ่านป้ายดี ๆ ก่อนนะครับ

ตรงจุดนี้จะมีชั้นวางรองเท้าให้ถอดรองเท้าวางบนชั้นก่อนเข้าไปในร้านนนะครับ

วันนี้ฝนตกผมขอนั่งด้านใน และขอเลือกดูเมนูก่อนนะครับ

โต๊ะนี้จะอยู่ตรงจุดที่มีวิวให้มองออกไปทะเลครับ

ระหว่างที่รอเครื่องดื่ม เรามาดูบรรยากาศภายในร้านก่อนครับ

จะเห็นว่าว่างมากเลย เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาและเป็นวันที่ฝนตกทั้งวันนักท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยเยอะครับ

ในร้านจะมีจุดที่เป็นห้องแอร์ให้ด้วยนะครับหากใครไม่อยากโดนลมหรือขี้ร้อน

เครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วครับ ดูการตกแต่งและปริมาณนี่มันเยอะมากครับ

เริ่มแรกเรามาดูที่สตอเบอร์รี่ปั่นกันก่อนครับ

สตอเบอร์รี่ปั่นแก้วนี้เป็นแก้วที่ใหญ่มากนะครับ ถือว่าคุ้มสุด ๆ

รสชาติของสตอเบอร์รี่ปั่นก็ถือว่าใช้ได้ ไม่หวานมาก

ถัดมาจะเป็นโกโก้ปั่นครับ

โกโก้ที่ออนท็อปไปด้วยครีมกับออริโอ้

เป็นโกโก้ปั่นที่แก้วใหญ่อลังการมาก

รสชาติของโกโก้จะออกมาไม่ค่อยหวานนะครับ ผมขอติตรงที่ขาดหวานไปหน่อยแต่ความอร่อยก็ยังโอเคอยู่

เมนูถัดมา ทางร้านแจ้งว่าพวกขนมจะไม่ได้ลงไว้ในเมนูให้เราไปเลือกเอาเองครับ เพราะว่าแต่ละเมนูในแต่ละวันจะออกมาไม่เมือนกัน

เรียกว่าเป็นเมนูแฮนด์เมดนะครับ เพราะทางร้านทำเองทุกวัน สำหรับเมนูนี้เรียกว่า สตอเบอร์รี่ชีสมูส Strawberry cheese mousse

รสชาติที่ออกมาถือว่าอร่อยมาก ด้านนอกเครื่อบไปด้วยครีมสตอร์เบอร์รี่ที่ได้รสชาติออกมาแบบเปรี้ยวหวาน

เมื่อเริ่มกินเข้าไปได้ลึก ๆ จะพบว่ามีเกล็ดน้ำตาลหรืออะไรซักอย่างไม่แน่ใจครับ รสชาติออกหวาน ๆ ถึงหวานมาก

ทานขนมกับน้ำรวมกันก็ได้รสชาติที่ดีขึ้นครับ

ให้ดูภาพรวม ๆ และบรรยากาศสุดฟิน

ในส่วนของน้ำสตอเบอร์รี่ปั่นขอซูมให้ดูอีกซักหน่อยครับ

ซูมให้ดูใกล้ ๆ ว่าทางร้านปั่นน้ำสตอเบอรี่ให้เป็นเนื้อเดียวกันได้ดีแค่ไหน

คือเครื่องดื่มของร้านนี้มันแก้วใหญ่มาก ๆ นะครับ กินให้หมดภายใน 1 ชั่วโมงคงไม่ไหวจริง ๆ ขอเดินสำรวจรอบ ๆ และหาจุดถ่ายรูปสวย ๆ ให้ดูดีกว่าครับ

เริ่มที่จุดนี้ก่อนครับจะเป็นที่นั่นที่เป็นบาร์เครื่องดื่มครับ

อยู่ตรงทางเดินไปริมทะเลนะครับ ให้ลงบันไดมา

ถ้าจะลงไปถ่ายรูปด้านล่างให้มาใส่รองเท้าก่อนนะครับ

ตรงจุดนี้จะมีรองเท้าให้ใส่ลงไปถ่ายรูปได้เลย

ฝนเริ่มหยุดตกแล้วขอเดินหาวิวดี ๆ ไว้คราวหน้ามาใหม่อีกครับ

ตรงนี้เป็นจุดเปิดโล่งหน้านั่งมากครับ และยังมีผ้าไว้คลุมเวลาแดดออกด้วยนะครับ ถ้ามาตอนกลางวันแดดแรง ๆ ทางร้านคงจะคุมหลังคาให้

จะเห็นว่าแต่ละจุดก็จะมีร่มให้ ส่วนนี้ก็วิวดีไม่แพ้กันเลยครับ เป็นโซฟานั่งหันหน้าออกทะเลรับลมเย็น ๆ

เสียดายตรงจุดนี้นะครับที่วันนี้ฝนมันตก และภาพที่ออกมาอาจจะดูไม่สว่างเท่าไหร่ เพราะแต่ละภาพไม่ได้ตกแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น

เดินลงมาด้านล่างจะมีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วยนะครับ ถ้าไม่เกรงใจเพื่อน ๆ ที่มาถ่ายรูปก็นั่นเล่นนาน ๆ ได้เลยฮะ

ว่าแล้วก็ขอเอารูปนางแบบของเรามาลงให้ดูว่ามุมนี้ถ่ายออกมาแล้วจะเป็นยังไง แต่ภาพมันก็จะไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่นะครับ เพราะครึ้มฟ้าครึ้มฝนทั้งวัน

ถ่ายแบบละลายหลังให้เห็นแบบเต็ม ๆ

ปิดรูรับแสงแล้วโฟกัสด้านหลังเพื่อดูคลื่นทะเลให้เป็น Background สวย ๆ ครับ

จากนั้นเราเดินกลับขึ้นมาอีกจุดครับ เป็นบันไดสวรรค์เลยก็ว่าได้ เหมาะสำหรับขึ้นไปชมวิวสวย ๆ นะถ้าใครไม่กลัวตก เพราะมันสูงพอสมควร

เห็นสูง ๆ แบบนี้ขึ้นไปก็หวาดเสียวอยู่นะครับ แต่ไม่เป็นไรเพื่อให้งานภาพออกมาดูดี นางแบบของเราก็พร้อมขึ้นไปถ่ายรูปมาลงให้ดูครับ

วันนี้คลื่นแรงจริง ๆ เล่นซะฟองเต็มเลย

ให้ดูแบบใกล้ ๆ ครับ

ขึ้นไปเปลี่ยนมุมด้านบนให้ใหม่ ถ้าเป็นตอนเย็น ๆ ตรงนี้เหมาะสำหรับมานั่งชมพระอาทิตย์ตกมาก ๆ

นางแบบบอกว่าลงมาแล้วขาสั่นเลยครับ ha....

กลับมาดูที่บรรรยากาศรอบ ๆ ร้านเลอเจ้าจอมคาเฟ่กันต่อครับ

มองกลับเข้าไปที่ร้านก็จะได้วิวภูเขา

กลับเข้ามาที่ด้านในของร้าน ตรงจุดนี้จะเป็นห้องแอร์นะครับ แต่ผมไม่ได้เข้าไปถ่ายด้านในให้ดู

ส่วนนี้จะเป็นที่นั่งแบบโซฟา

ทานเสร็จแล้วก็เช็คบิลกันเลยครับ

สรุปสำหรับสำหรับร้าน LE JaoJom Cafe ถือว่าราคาที่นี่เหมาะสมที่สุดแล้วครับ กับแก้วที่ใหญ่โตขนาดนี้ โต๊ะข้าง ๆ ที่มาแต่ผู้หญิงกินกันก็ไม่หมด ผมขอแนะนำสำหรับสาว ๆ ที่มันกัน 2 คน หรือคู่รักที่มากันแค่ 2 คนให้สั่งเครื่องดื่ม 1 อย่างกับขนม 1 อย่างไปก่อน ถ้ากินหมดค่อยสั่งเพิ่มก็ได้ครับ แต่ถ้ากะว่าจะนั่งนาน ๆ ก็สั่งคนละแก้วก็ได้ครับ พนักงานที่นี่ก็ถือว่าบริการดี แนะนำเมนูและเลือกที่นั่งให้ได้ดีครับ ถ้าผ่านมายังไงผมก็ต้องกลับมาแวะเช็คอินอีกแน่นอนครับ

ขากลับจากร้านขอถ่ายรูปสวย ๆ ไว้ให้ชมอีกซักหน่อยครับ

ขอถ่ายตรงอุโมงไม้ไผ่ทางเข้าที่จอดรถให้ดูอีก

ขนาดวิวที่จอดรถยังสวยเลย จะไม่ให้เรียกว่าคาเฟ่สุดคุ้มได้ยังไงล่ะครับ

ภาพที่เหลือ ขอลงเพิ่มอีกหน่อยครับ ให้ดูว่าคลื่นมันแรงขนาดไหน ถ้ามาในช่วงมรสุมแบบนี้