รีวิว Seagull หม้ออัดแรงดัน 6 ลิตร ด้วยการตุ๋นเนื้อ ทำเป็นข้าวหน้าเนื้อตุ๋น
หลังจากที่จ้องมันมานานแล้วครับ สำหรับ Seagull หม้ออัดแรงดัน 6 ลิตร รหัส 150000626 เจอช่วงโปร Mid Year 2020 พอดี ราคาลดลงมาเยอะ บวกกับช่วงนี้ว่าง ๆ พอดี ได้มาครั้งแรกเลยทำเป็นรีวิวกันซะเลย เผื่อใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อมาใช้ดีไหม คลิกที่นี่เพื่อดูราคาหม้ออัดแรงดัน
วันนี้ผมจะมาแนะนำว่า หม้ออัดแรงดัน มันใช้งานไม่ยากเลยครับ ว่าแล้วก็ไปดูของกัน
ไปดูคลิปหม้ออัดแรงดัน 6 ลิตร ด้วยการตุ๋นเนื้อ ทำเป็นข้าวหน้าเนื้อตุ๋น ตามนี้เลยครับ
จากนั้นมาดูรีวิวกันเลยครับ
ของมาส่งถึงบ้านต้องรีบแกะกล่องดูซักหน่อย
สภาพก็ค่อนข้างหน้ากังวนกับของด้านในครับ จากขนส่งตัวเจ น่าจะโยนขึ้นรถกันมันทีเดียว แต่ของที่ส่งจากเจ้าอื่นที่มาวันเดียวกันสภาพนี่ยิ่งกว่าการถือเดินจากร้านเอามาส่งหน้าบ้านกันเลยเมื่อเทียบกับขนส่งเจ้านี้
งั้นเรามาแกะกล่องกันดูหน่อยแล้วกันครับ
ยกโฟมกันกระแทกออกแล้วก็จะเห็นประมาณนี้ครับ
สภาพใช้ได้ไม่มีปัญหา น่าเอามาตุ๋นเนื้อจริง ๆ
เปิดดูด้านในมีคู่มือภาษาไทยมาให้พร้อมคำเตือน โปรดอ่านคู่มือก่อนใช้งานกันนะครับ แต่ผมอ่านแบบผ่าน ๆ ให้พอจับใจความได้ว่าใช้งานยังไง
ผมไม่รอช้า ขอดูก้นหม้อก่อนเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องติดสติกเกอร์ไว้ตรงนี้ เลยต้องแกะออกซะ เพราะเดี๋ยวเวลาเอาไปต้มแล้วมันจะไหม้เอา
จากการยกหรือสัมผัสดู หม้อมีน้ำหนักเยอะพอสมควร น่าจะเกือบ ๆ 1 กิโลกรัมได้ ถือว่าเป็นโลหะที่ดูทนทานแข็งแรงพอสมควร
เมื่อได้หม้อแล้วก็เริ่มน้ำลายไหลแล้วครับ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เห็นอาหารเลย นี่แค่หม้ออัดแรงดันนะเนี่ย
ดังนั้น เรามาเตรียมอุปกรณ์ทำเนื้อตุ๋นด้วยหม้ออัดแรงดันกันครับ ส่วนประกอบมีดังนี้
เตรียมเครื่องสมุนไพรไว้ดับกลิ่นก่อนเลย
ข่า ตะไคร้ ไว้ดับกลิ่นคาวเนื้อ
ใบเตย สำหรับเพิ่มความหอมให้กับน้ำซุป
มะเขือเทส เพิ่มความเปร๊ยวนิด ๆ
หอมหัวใหญ่ หั่นแบบไม่ต้องบางมาก เดี๋ยวมันจะเละเองในหม้อ
แครอทหั่นแว่นแบบหนา ๆ
หอมแขกทุบนิดหน่อย รากผักชี ทุบรากผักชีแล้วหั่นฝอย กระเทียม ทุบกระเทียมให้เรียบร้อย
ต่อไปเป็นส่วนประกอบหลักของเรา ซึ่งนั้นก็คือ เนื้อวัว นั่นเอง ! ซึ่งเป็นส่วนของเศษเนื้อนะครับ เวลาไปซื้อก็บอกพ่อค้าแม่ขายว่า
"มีเนื้อเศษมั้ยฮะ ขอซื้อไปตุ๋นหน่อยฮะ เอาแบบติดมันเยอะ ๆ นะฮะ"
ประมาณนี้ล่ะครับ เดี๋ยวเขาก็จะจัดมาให้ เนื้อเศษขายกันอยู่กิโลกรัมละ 160 ผมขอซื้อมา 100 บาท ก็ถือว่าได้เยอะพอสมควร ตามรูปนี้เลยครับ
เมื่อได้มาแล้วก็ให้ล้างทำความสะอาดซะ เพราะว่า..กว่ามันจะกลายมาเป็นเนื้อเศษแบบนี้ไม่รู้ผ่านมือใครมากี่รอบบ้างเนอะ
เครื่องปรุงที่ใช้มี ดังนี้ครับ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
มิริน 1 ช้อนโต๊ะ (เหล้าหวานสำหรับทำอาหารญี่ปุ่น ไม่มีก็ไม่ใส่นะครับ คลิกที่นี่เพื่อดูมิริน)
สาเก 1 ช้อนโต๊ะ (เหล้าสำหรับทำอาหารญี่ปุ่น เอาไว้ดับคาวนะครับ ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ คลิกที่นี่เพื่อดูสาเก)
น้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรส 1-2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ (คลิกที่นี่เพื่อดูซีอิ้วขาว)
ซีอิ้วดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรมสูตรเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ (เป็นสูตรที่ทำอาหารแล้วอร่อยมากนะครับ คลิกที่นี่เพื่อดูซอสหอย)
เนยจืด ไว้สำหรับผัดเนื้อ ไม่มีก็ไม่ใช้ก็ได้ หรือจะใช้น้ำมันพืชแทนก็ได้ครับ
วิธีทำเนื้อตุ๋นด้วยหม้ออัดแรงดัน ให้ทำดังนี้
ไปดูคลิปหม้ออัดแรงดัน 6 ลิตร ด้วยการตุ๋นเนื้อ ทำเป็นข้าวหน้าเนื้อตุ๋น ตามนี้เลยครับ
นำข่าตะไคร้มาหั่นให้เรียบร้อย จากนั้นนำใบเตยมาพันเข้าด้วยกัน วิธีการพันให้ดูในคลิปได้เลยครับ
ส่วนใบตะไคร้ก็ให้นำมาพันเพื่อผสมลงไปในเครื่องสมุนไพรของเรา
นำกระทะขึ้นตั้งบนเตาไฟ แล้วใส่เนยลงไป
เปิดไฟแรงให้เนยละลาย
เมื่อเริ่มร้อนได้ที่แล้วให้ทยอยใส่เนื้อลงไป
ค่อย ๆ ผัดไปด้วย แล้วใส่ลงไปให้หมดเลย
ทำการผัดให้เนื้อด้านนอกเริ่มสุก
พอเนื้อเริ่มสุกให้ใส่กระเทียมกับรากผักชีลงไปผัดให้เข้ากัน
ผัดไปซักพักให้นำหอมหัวใหญ่ลงไปผัดด้วย
แล้วใส่มิรินกับสาเกลงไป พร้อมกับเกลือนิดหน่อย แล้วผัดให้เข้ากันดี ถ้าเร่งไฟให้แรงหน่อย เอียงกระทะพร้อมกับผัดอีกเล็กน้อย รับรองไฟลุกท่วมแน่นอน แต่ถ้าใครไม่ชำนาญก็ไม่ควรทำนะครับ
คลิกที่นี่เพื่อดูมิริน คลิกที่นี่เพื่อดูสาเกปรุงอาหาร
เสร็จแล้วให้เติมน้ำลงไปให้พอท่วมเนื้อ แล้วใส่ผงปรุงรสลงไป
เติมน้ำตาลอีกซักหน่อย
น้ำมันหอยอีกซักนิด
ใส่ซีอิ้วขาว เข้าไปอีก
คลิกที่นี่เพื่อดูซีอิ้วขาว คลิกที่นี่เพื่อดูซอสหอย
ปล่อยให้เดือดซักพัก แล้วชิมรสชาติดู ขาดเหลืออะไรก็เติมมันลงไปได้เลยครับ ใส่ให้มันเข้มข้นหน่อย เพราะตอนที่เราจะตุ๋นจริง ๆ จะต้องเติมน้ำเข้าไปอีก
(อีกสูตรจะใช้วิธีการย่างให้พอด้านนอกสุกนิดหน่อย แล้วนำมาใส่ในหม้ออัดแรงดัน จากนั้นก็ใส่เครื่องปรุงและส่วนประกอบอื่น ๆ ให้ครบลงไปทีเดียวเลยนะครับ ก็ลองดูครับว่าใครถนัดแบบไหนก็ใช้วิธีแบบนั้น)
เมื่อรสชาติได้ที่แล้วให้ปิดไฟและยกลงจากเตา นำหม้ออัดแรงดันขึ้นตั้งบนเตาไฟ แล้วใส่เครื่องสมุนไพรลงไป ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกูด และเติมความหอมด้วยใบเตย วางไว้ที่ก้นหม้อ เพื่อป้องกันเนื้อไปสัมผัสกับก้นหม้อ เดี๋ยวมันจะไหม้เอา
จากนั้นเทเนื้อที่ปรุงรสชาติเสร็จแล้วลงไปได้เลยครับ
นำแครอทกับมะเขือเทศลงไป พร้อมเติมน้ำให้พอท่วมเนื้อขึ้นมานิดหน่อย
จากนั้นนำฝาหม้ออัดแรงดันมาปิด โดยการวางให้ด้ามจับฝาหม้อเบี่ยงไปทางด้านขวามือ เพราะจะได้เข้าล็อกพอดีกับตัวหม้อ ถ้าหม้อเข้าล็อกพอดีแล้วให้ใช้มืออีกด้านกดฝาด้านบนไว้ ตามรูปนี้เลยครับ
จากนั้นดันด้ามจับฝาหม้อให้เข้ามาตรงกลาง ให้ตรงกับด้ามจับของตัวหม้อ ดังรูป
จากนั้นจะทำการปรับสวิตซ์ ที่อยู่ตรงด้านบน ซึ่งมีอยู่ 3 เบอร์ด้วยกันคือ
0 = ปกติ แบบไม่ได้ปิดฝา ไม่ได้อัดแรงดันใด ๆ ทั้งสิ้น
1 = ตุ๋นทั่วไป ที่ใช้แรงดันไม่มากนัก
2 = ตุ๋นแบบอัดแรงดันเต็มที่ เหมาะสำหรับเนื้อที่เปื่อยยาก
จากนั้นผมจะทำการกดปุ่มด้านบนดังรูป
ดันให้ลงมาอยู่ที่เบอร์ 2 ดังรูป
แค่นี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการตุ๋นเนื้อ ทำการเปิดไฟ เริ่มแรกให้ใช้ไฟแรงไปก่อนนะครับ
พอหม้อเริ่มร้อนและเริ่มเดือด จะมีเสียงดังมีแรงดันพุ่งขึ้นมาก็ให้เริ่มจับเวลาได้เลยครับว่าจะเอากี่นาที
ตอนนี้ผมเริ่มจับเวลาแล้วครับ เริ่มที่ 09.28น.
จากนั้นก็ไปทำความสะอาดครัวกันระหว่างรอให้เนื้อเปื่อย
เค้าเตอร์ครัวเริ่มสะอาดแล้ว
เมื่อสังเกตุดี ๆ จะเห็นว่าเมื่อแรงดันเริ่มดันขึ้นมาเต็มที่แล้วปุ่มแดง ๆ ที่อยู่ด้านบนฝาจะเด้งขึ้นมา ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าห้ามเปิดหม้อเด็ดขาด อาจะทำให้เกิดอันตรายได้นะครับ
ดูเวลาอีกทีซิ ใกล้ที่จะเปิดหม้อได้แล้วหรือยัง คนทำเริ่มหิวแล้ว !!!!
โอเคร! หักลบกลบหนี้แล้ว เอ้ย ! ไม่ใช่ หักลบเวลาแล้วก็พอได้อยู่นะ 09.47 - 09.28 = 19 นาที ใกล้ละ รออีก 1 นาทีก็ทำการปิดไฟได้เลยครับ
ทำการปล่อยแรงดันด้วยการดันปุ่มกลับขึ้นไปเพื่อให้ฝาแรงดันเปิดขึ้น
จากนั้นดันสวิตซ์จากเบอร์ 2 กลับขึ้นไปอยู่ที่เบอร์ 0 ซะ
แล้วให้ดันด้ามของฝาเบี่ยงกลับมาที่ด้านขวามือเหมือนเดิมได้เลยครับ
เมื่อดันมาจนสุดแล้วก็ให้ยกฝาออกจากหม้อได้เลย ระวังมันพุ่งใส่หน้าด้วยนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นการอบซาวหน้าซะล่ะ
ควันโขมงตอนเก้าโมงกันเลยทีเดียว
หน้าตาดูดีใช้ได้ แต่จะกินได้ไหมค่อยมาลุ้นกัน
ตักข้าวใส่จานแล้วนำมาวางข้างเขียงได้เลยครับ
จัดการนำเนื้อที่ตุ๋นไว้มาหั่นใส่จานข้าว ลองชิมดูก่อนว่าเปื่อยพอหรือยัง เท่าที่ชิมดูก็พอกินได้นะครับ ถ้าจะให้ดีก็ต้องตุ๋นให้นานกว่านี้อีกหน่อย จาก 20 นาทีให้เป็น 30 นาทีผมว่าน่าจะพอดี แต่สำหรับผมแล้ว 20 นาทีนี้มันพอดี พอได้เคี้ยวให้มันสู้ฟัน
สำหรับรสชาติก็ถือว่าอร่อยนะครับ มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศอยู่เยอะพอสมควร ใครมีอะไรก็ใส่เพิ่มลงไปได้เลยครับ เพื่อความหอมของเนื้อตุ๋น
เมื่อหั่นใส่จานข้าวครบแล้วก็ให้ตักพวกแครอทกับมะเขือเทศลงไป เติมน้ำซุปราดหน้าลงไปอีกซักหน่อย แล้วโรยด้วยต้นหอมผักชีที่หั่นไว้แล้ว แค่นี้ก็จะได้ข้าวหน้าเนื้อตุ๋นด้วยหม้ออัดแรงดัน ใช้เวลาไม่นานก็ได้เนื้อตุ๋นที่นุ่ม ๆ แล้วครับ
ตักน้ำซุปมาใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟกับข้าวร้อน ๆ เหมือนอยู่ในร้านอาหารแถบเมืองหนาวกันเลยทีเดียว
จากนั้นก็นำไปรับประทานกันได้เลยครับ ลองประยุกดูครับ
จากการที่ได้ใช้งานหม้ออัดแรงดันแล้วพบว่ามีข้อดีดังนี้
ช่วยให้ประหยัดเวลาในการตุ๋นเนื้อ จากปกติต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง เหลือแค่ไม่กี่นาที
ช่วยให้ประหยัดไฟประหยัดแก๊สลงมาเยอะเลยครับ
ช่วยให้จัดการกับความนุ่มของเนื้อได้ดี
หม้อนี้ผมซื้อมาจากลาซาด้านะครับ คลิกที่นี่ เพื่อดูราคาหม้ออัดแรงดัน
เมนูนี้ยังไม่จบนะครับ ผมนำน้ำซุปมาต้มบะหมี่ต่อ หรือใครจะทำเป็นก๊วยเตี๋ยวก็ได้นะครับ
กินจนหมดหม้อกันเลย
วิธีใช้งานหม้ออัดแรงดันตรานกนางนวลตัวนี้ ถ้ามีผิดถูกยังไงก็ต้องขออภัยผู้ที่หลงเข้ามาอ่านด้วยนะครับ
หากสนใจก็ลองคลิกเข้าไปดูราคาได้ตามลิงค์นี้ครับ
ป้ายกำกับ : Seagull หม้ออัดแรงดัน ตุ๋นเนื้อ ข้าวหน้าเนื้อตุ๋น
หมวดหมู่ ขั้นตอนการใช้งาน ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ ท่องเที่ยว บ้านและสวน มาตรฐาน ร้านอาหาร รีวิวร้านอาหาร วัตถุดิบประกอบอาหาร สุขภาพ อาหาร เกษตร เครื่องดื่ม โปรแกรมร้านอาหาร โปรโมชั่น ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ทั้งหมด
อ่านวิธีลงบทความของคุณได้คลิกที่นี่
บทความอาหารที่คุณอาจสนใจ
ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส
04/01/2022 13:32:08
รีวิว Seagull หม้ออัดแรงดัน 6 ลิตร ด้วยการตุ๋นเนื้อ ทำเป็นข้าวหน้าเนื้อตุ๋น
28/08/2021 08:32:45
7 เมนูให้คุณค่าทางโภชนาการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด-19
12/05/2021 20:23:59
5 ประโยชน์สุดจี๊ดจากพริก ไม่กินพริก!ไม่ได้แล้วนะ
12/05/2021 11:00:09
ร้านอาหารที่คุณอาจสนใจ
ตึกเพชร
ร้านอาหารอร่อย จานด่วน ริมถนนสายไหม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้น ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟรสเด็ด ข้าวยำไก่แซบ ข้าวหมู 3 ชั้นทอด
เฉิดฉาย
ร้านขายอาหารทะเล ไม่เน้นกำไร แต่เน้นได้ใจลูกค้า กับเมนูอาหารที่เน้นกับแกล้ม ร้อยเดียวทุกอย่าง
ครัวเจ๊เวียน
อาหารตามสั่ง ราดข้าว หรือสั่งเป็นกับข้าวก็ได้ ต้มยำ ยำเราก็มี อาหารถูกปาก ราคาถูกใจ เริ่มต้นที่ 50 บาท